สายมูห้ามพลาด วัดไหนขอพรแล้วปัง!

คนไทยกับเรื่องดวงเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ที่ไหนที่เขาว่ามูฯ แล้วดี ไปแล้วปัง ทั้งความรัก การงาน สุขภาพ และการเงิน มีหรือจะพลาด สำหรับชาวมูเตลูที่กำลังประสบปัญหาชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ ด้านไหนก็ตาม และต้องการที่พึ่งทางใจ เราจะชวนไปรับพลังงานดีๆ เสริมดวงชะตาผ่าน 10 สถานที่ขอพรฉบับคนเมืองสายมูฯ ที่เราคัดมาให้แล้ว

1.พระสทาศิวะ หน้าห้างฯ เซ็นทรัลเวิลด์

ถ้าพูดถึงองค์เทพที่ประทับอยู่หน้าห้างฯ เซ็นทรัลเวิลด์ หลายคนคงนึกถึง ‘พระตรีมูรติ’ ที่ใครๆ ต่างไปขอพรเรื่องความรัก แต่แท้จริงแล้ว พระตรีฯ ที่ใครๆ พูดถึงนั้น กลับไม่ใช่พระตรีฯ จริงๆ อย่างที่เราเข้าใจและเรียกกันจนติดปาก 

เพราะเทพบริเวณหน้าห้างฯ เซ็นทรัลเวิลด์นั้น ความจริงแล้วเป็น ‘พระสทาศิวะ’ รูปเคารพปางหนึ่งของพระศิวะ ที่ชาวฮินดูเชื่อว่าสามารถขอพรได้ทุกอย่าง และผู้ที่ได้รับพรจากพระองค์จะสมหวังดังปรารถนาทุกประการ แตกต่างจากที่หลายคนเข้าใจว่าท่านเด่นเรื่องความรัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อจิตอธิษฐานของคนไหว้ตั้งมั่นเรื่องการขอความรัก พากันเอาดอกกุหลาบแดง ธูปเทียนแดง ไปกราบไหว้บนบานและมักสมหวัง ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของคนโสดที่มองหาความรักแบบชีวิตคู่

2.วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก สีลม)

อีกหนึ่งแห่งที่พลาดไม่ได้เมื่อพูดถึงสถานที่ขอพรสุดฮิตคือ ‘วัดพระศรีมหาอุมาเทวี’ หรือที่ใครๆ ต่างเรียกกันว่า ‘วัดแขก สีลม’

เพราะนอกจากเดินทางง่าย ที่นี่ยังมีสถาปัตยกรรมอินเดียใต้ที่งดงาม และเป็นที่ประทับขององค์เทพและเทวีฮินดูถึง 9 องค์ ได้แก่ พระพิฆเนศ พระศิวะ พระกฤษณะ พระวิษณุ พระลักษมี พระขันธกุมาร พระแม่มารีอัมมัน พระแม่กาลี และพระสรัสวดี ที่ให้พรในเรื่องที่แตกต่างกันไป

เหตุผลที่หลายคนนิยมมาที่นี่ เพราะหลังจากขอพรเสร็จเราจะได้รับการเจิมหน้าผาก และการ์ดเทพฮินดูกลับไปบูชาเพิ่มด้วย แอบกระซิบเคล็ดลับว่า ให้ขอพรในเรื่องที่อยากได้แบบเน้นๆ ไปเลย อธิบายท่านให้ชัดเจน รับรองได้แน่นอน

3.พระตรีมูรติ หน้าตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์

หลังจากที่คนจำนวนไม่น้อยไปไหว้พระสทาศิวะ ที่หน้าห้างฯ เซ็นทรัลเวิลด์ เพราะคิดว่าเป็นพระตรีมูรติกันมานาน เราอยากให้คุณเดินทางต่อกันอีกนิด ไปที่หน้า ‘ตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์’ ในย่านสาทร แล้วจะได้พบกับพระตรีมูรติองค์จริงของประเทศไทย ที่ถูกต้องตามเทวลักษณะและตำนานเทวปกรณ์มากที่สุดองค์หนึ่ง แบบที่ขอความรักได้ผลทันตาไม่แพ้กันเลยทีเดียว

เพียงแต่ในบริเวณนั้นจะไม่มีการขายเครื่องเคารพบูชา ใครที่ต้องการมาไหว้สักการะอาจต้องเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน และของไหว้เพิ่มเติมกันไปเอง และหลีกเลี่ยงการถวายด้วย​​อาหารคาวทุกชนิด ดอกไม้และผลไม้ที่ชื่อไม่เป็นมงคล รวมไปถึงขนมที่ทำจากไข่ทุกชนิดด้วย

4.เทวาลัยพระพิฆเนศ สี่แยกห้วยขวาง

ใครกำลังประสบปัญหาเรื่องการงาน อยากเจริญก้าวหน้า มีเงินทองไหลมาเทมา การบูชา ‘พระพิฆเนศ’ ที่บริเวณสี่แยกห้วยขวางก็เป็นหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจไม่น้อย

เนื่องจากพระพิฆเนศทรงเป็นมหาเทพผู้ทรงภูมิปัญญาที่ยิ่งใหญ่ในศาสนาฮินดู ที่คนไทยหลายคนนับถือและเชื่อว่าจะช่วยขจัดอุปสรรคทั้งปวง อีกทั้งยังช่วยให้ประสบความสำเร็จ สุขสมหวังดั่งปรารถนา

นอกจากบริเวณสี่แยกห้วยขวางจะมีองค์พระพิฆเนศแล้ว ยังมีพระตรีมูรติ พระแม่อุมาเทวี และพระราหู ที่สามารถไปกราบไหว้เพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมในเรื่องต่างๆ อีกด้วย

5.ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์

ถ้าถามว่าสถานที่ขอพรจุดไหนมีชื่อเสียงในสายตาชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ‘ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ’ ที่ตั้งอยู่หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ หนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่ทัวร์ต่างชาติต้องแวะกันอยู่เสมอๆ

เพราะตามความเชื่อของศาสนาฮินดูแล้ว พระพรหม 4 พระพักตร์เป็นพระผู้สร้าง ที่แต่ละพระพักตร์หันไปยังทิศทั้ง 4 คือ เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ทำให้พระองค์สามารถมองเห็นและปกปักรักษา ปัดเป่าความขัดข้อง อุปสรรค และส่งเสริมโชคและความสำเร็จของผู้สักการะที่มีจิตศรัทธาให้สมปรารถนาได้

การขอพรจะเริ่มจากพระพักตร์แรกและเวียนขวามือของเรา จนไปถึงพระพักตร์สุดท้าย ซึ่งแต่ละพระพักตร์จะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

พระพักตร์ที่ 1 : เรื่องการงาน การเรียน และความก้าวหน้าในชีวิต 

พระพักตร์ที่ 2 : เรื่องเงินทอง ทรัพย์สิน บ้านที่ดิน รวมไปถึงหนี้สินที่มีคนยืมไปแล้วไม่คืน

พระพักตร์ที่ 3 : เรื่องสุขภาพ คู่ชีวิต ครอบครัว ญาติพี่น้อง และความมั่นคงของชีวิต

พระพักตร์ที่ 4 : เรื่องโชคลาภ การขอกู้ยืมเงิน และขอบุตร

6.ศาลพระแม่ลักษมี ตึกเกษรวิลเลจ

รูปเคารพ ‘พระแม่ลักษมี’ บนชั้น 4 ของตึกเกษรวิลเลจ ที่แม้จะมองหาทางขึ้นยากไปเสียหน่อย แต่รับรองได้ว่าเมื่อไหว้เสร็จจะรู้สึกถึงพลังงานจากท่านอย่างเต็มเปี่ยม

ตามความเชื่อของฮินดู พระแม่ลักษมีเป็นพระชายาคู่บารมีของพระนารายณ์ (พระวิษณุ) เป็นเทวีแห่งโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์ คุณในด้านการทำมาค้าขาย เจรจาต่อรอง การประกอบธุรกิจทุกสาขา ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ เงินทอง สมบัติแก่ผู้บูชา ซึ่งถ้าคุณมีจิตใจที่ตั้งมั่น หมั่นทำความดี พระแม่ลักษมีก็จะดึงสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตอย่างแน่นอน

ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มากราบไหว้นิยมใส่เสื้อผ้าสีชมพูหรือสีสันสดใส เพราะเชื่อว่าองค์ท่านชื่นชอบ รวมไปถึงนำดอกบัวสีชมพู น้ำอ้อย หรือผลไม้รสอ่อนๆ เช่น มะพร้าว มาเป็นของไหว้ด้วย

7.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)

‘วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)’ เป็นวัดไทยในกรุงเทพฯ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 ก่อนที่ต่อมารัชกาลที่ 3 โปรดให้ขยายขอบเขตพระอารามให้กว้าง สร้างวิหารพระนอน พระมหาเจดีย์ขึ้น

ปัจจุบันวัดโพธิ์ขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้วัดฮินดูหรือจีนเลย เนื่องจากมีผู้มาขอพรและได้สิ่งที่ต้องการกลับไปจำนวนมาก จนมีผู้ศรัทธาแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะหนุ่มสาววัย 30 ปีที่ยังไม่ประสบพบเจอกับความรักที่สมหวัง

ที่เป็นเช่นนี้เพราะมีความเชื่อว่า ถ้าใครที่มากราบไหว้ที่ฝ่าพระบาทพระนอน ที่วิหารพระพุทธไสยาสน์ (วิหารพระนอน) วัดโพธิ์ จะทำให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข และหากคนคนนั้นอายุย่างเข้าเลข 3 ไปขอพรเรื่องความรักก็มักสมหวังอยู่เสมอ

8.วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)

ปีชง ดวงตก ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ลองไปไหว้ที่ ‘วัดมังกรกมลาวาส’ หรือ ‘วัดเล่งเน่ยยี่’ วัดจีนในกรุงเทพฯ ที่มีความสวยงามและโด่งดังในเรื่องของการขอพรแก้ชง จนเป็นวัดแรกๆ ที่คนไทยมักนึกถึง

ภายในวัดมีเทพเจ้าจีนหลายองค์ที่ช่วยเรื่องการปกปักรักษาและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย โดยคนส่วนมากนิยมไหว้ ‘ไท้ส่วยเอี๊ย’ เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา ‘หั่วท้อเซียงซือกง’ เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา รวมไปถึง ‘ไฉ่ซิงเอี๊ย’ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ปีใหม่ทีไร วัดเล่งเน่ยยี่จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่ต้องการมาแก้ปีชง สะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

9.วัดวิษณุ (สมาคมฮินดูธรรมสภา)

แม้ไม่ได้โด่งดังเท่าวัดแขก แต่ ‘วัดวิษณุ’ หรือ ‘สมาคมฮินดูธรรมสภา’ ก็ถือเป็นวัดฮินดูแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามและศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กัน

ความพิเศษของวัดวิษณุคือ เป็นเทวสถานสำหรับประกอบศาสนพิธีของศาสนาฮินดู นิกายไวษณพ ซึ่งเป็นนิกายในศาสนาฮินดูที่นับถือพระวิษณุเป็นพระเป็นเจ้าเพียงแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเทวรูปศักดิ์สิทธิ์สร้างด้วยหินอ่อนแกะสลักด้วยมือจากประเทศอินเดียครบทั้ง 24 องค์

เรียกได้ว่ามาที่เดียว สักการะได้ครบทุกเทพและเทวี แบบที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกราบไหว้ที่อื่นให้วุ่นวาย

10.ศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า

ปิดท้ายด้วย ‘ศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า’ หนึ่งในศาลเจ้าที่ประดิษฐานเทพจีนที่ชาวไทยให้ความนับถือและอยู่คู่ย่านเยาวราชมาอย่างยาวนาน

ตามความเชื่อ พระแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตากรุณาที่ชอบให้ความช่วยเหลือมนุษย์อยู่เสมอ ทำให้คนในย่านรวมถึงนักท่องเที่ยวนิยมไปกราบไหว้ขอเรื่องสุขภาพ ปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ

คนทั่วไปมักบนบานไว้ว่า เมื่อสมหวังได้ผลลัพธ์ตามความต้องการ จะรับประทานมังสวิรัติหรืออาหารเจเป็นการตอบแทนเจ้าแม่กวนอิมอยู่เสมอ